2552-08-13







8กฎเหล็กการทานน้ำผึ้งตามศาสตร์จีน
ข้อห้ามและข้อควรระวังการกินน้ำผึ้งตามศาสตร์แพทย์แผนจีน
1. ผู้ ป่วยเบาหวานห้ามกิน เนื่องจากน้ำผึ้งมีปริมาณกลูโคส
และฟรักโทสที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทันที
จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างรวเเร็ว การหลั่งอินซูลินของตับอ่อนไม่พอ
2. ห้ามกินปริมาณมาก โดยเฉลี่ยวันละ 1-2 ช้อน
ประมาณ 20 กรัม ในกรณีพิเศษอาจกินเพิ่มได้
แต่ไม่ควรเกิน 50 กรัม/วัน
3. คนที่ถ่ายเหลวหรือท้องเสีย เพราะจะทำให้ถ่ายมากขึ้น
เนื่องจากน้ำผึ้งจะดูดน้ำทำให้ขับอุจจาระมากขึ้น
4. ผู้ป่วยที่มีอาการอาเจียน หรือมีผิวหนังอักเสบเรื้อรัง
นื่องจากภาวะความชื้นตกค้าง
5. การผสมน้ำอุ่นประมาณไม่เกิน 40 องศา
ไม่ควรใช้น้ำที่ร้อนจัดๆ เพราะจะทำลายคุณค่าของเอนไซม์ วิตามิน และกรดอะมิโน
และสารที่มีคุณค่า นฤดูร้อนสามารถใช้น้ำเย็นชงดื่ม แต่ควรจะผสมน้ำขิงเล็กน้อย
ป้องกันกระเพาะอาหารกระทบความเย็น
6. ไม่ควรกินร่วมกับเต้าหู้ เนื่องจากเต้าหู้มีรสหวาน เค็ม มีคุณสมบัติเย็น
สรรพคุณขับร้อนกระจายเลือด เมื่อกินร่วมกันทำให้ท้องเสียง่าย
อีกเหตุผลหนึ่งคือ เอนไซม์จากน้ำผึ้งจะทำปฏิกิริยากับแร่ธาตุ โปรตีน สารอินทรีย์ของเต้าหู้
จะทำให้คุณค่าทางโภชนาการด้อยไป
7. ไม่ ควรกินพร้อมผักกุยช่าย เพราะ กุยช่าย มีวิตามินซีมาก
จะทำปฏิกิริยากับโลหะทองแดง และเหล็กในน้ำผึ้ง เกิดออกซิเดชัน ทำให้คุณค่าด้อยลง
อีกเหตุผลหนึ่ง น้ำผึ้งทำให้ระบาย กุยช่ายมีเส้นใยมาก เมื่อกินร่วมกันจะทำให้ท้องเสียง่าย
8. ไม่ควรกินร่วมกับหัวหอมและกระเทียม จะทำให้ฤทธิ์ของน้ำผึ้งด้อยลง
ที่มา หมอชาวบ้าน http://variety.hunsa.com/detail.php?id=2198