2553-06-27

ล้างผักลดพิษ (Momypedia)










ล้างผักลดพิษ (Momypedia)

หากไม่สามารถหาซื้อผักปลอดสารพิษหรือปลูกผักกินเองได้
อาจจำเป็นต้องกินผักที่ฉีดสารเคมีกำจัดแมลง
การล้างผักเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยลดพิษภัยจากสารเคมีได้
1.ผสมโซเดียมไซคาร์บอเนต (ผงฟู) 1 ช้อนโต๊ะ
ในน้ำอุ่น 1 กะละมัง (20 ลิตร) แช่ผักทิ้งไว้นาน 15 นาที
ะลดปริมาณสารพิษได้รอยละ 90-95
2.ใช้น้ำส้มสายชูละลายน้ำความเข้มข้น 0.5 %
(น้ำส้มสายชู 1 ขวดใหญ่ / น้ำ 4 ลิตร)แช่ผักทิ้งไว้นาน 15 นาที
จะลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ 60-84
3.ล้างผักโดยให้น้ำไหลผ่าน โดยเด็ดผักเป็นใบ ๆ ใส่ตะแกรงโปร่ง
เปิดน้ำให้แรงพอประมาณ คลี่ใบผักให้น้ำผ่านทั่วถึง ล้างนาน 2 นาที
จะลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ 54-63 แต่จะใช้น้ำค่อนข้างมาก
4.แช่ผักในน้ำสะอาด ล้างผักให้สะอาดจากสิ่งสกปรกด้วยน้ำครั้งหนึ่งก่อน
แล้วเด็ดเป็นใบๆ แช่ลงในอ่างนาน 15 นาที จะลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ 7-33
5.ลวกผักด้วยน้ำร้อน จะลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ 50 ส่วน
การต้มจะลดได้เท่ากับการลวกผัก แต่สารพิษอีกร้อยละ 50 จะยังคงอยู่ในน้ำแกง

ที่มา :http://health.kapook.com/view7797.html 28/06/53




2553-06-10

Beta-carotene






เบต้าแคโรทีน เพื่อหัวใจและสุขภาพ

อาหารที่มีเบต้า แคโรทีน (Beta-carotene) เช่น ฟักทอง มะเขือเทศ แตงโม แคนตาลูป บรอกโคลี ฯลฯ
ผักและผลไม้เหล่านี้มีประโยชน์ มีสารอาหารมากมาย มีวิตามิน และหนึ่งในสารอาหารมากประโยชน์ และเป็นสารอาหารยอดนิยมในการดูแลสุขภาพร่างกาย และสุขภาพหัวใจ ก็คือ เบต้าแคโรทีน
เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในพืชที่มีสีเหลืองและสีส้ม เบต้าแค่โรทีนถือเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ซึ่งเมื่อรับประทานอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนแล้ว
ร่างกายจะทำการเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนให้กลายเป็นวิตามินเอ โดยกระบวนการแล้ว เบต้าแคโรทีนจะมีสูตรทางเคมีที่โรงสร้างใหญ่ แต่เมื่อผ่านสู่กลไกการทำงานของตับจะเปลี่ยนให้เบต้าแคโรทีนกลายเป็นวิตามินเอ ซึ่งมีโครงสร้างที่เล็กกว่า โดยโมเลกุลของเบต้าแคโรทีน 1 โมเลกุล
เมื่อผ่านกระบวนการของร่างกายจะกลายเป็นวิตามินเอ 2 โมเลกุล
Benefits of Beta-carotene...คุณประโยชน์ของเบต้า แคโรทีน อย่างที่ทราบแล้วว่า เบต้าแคโรทีนมีคุณสมบัติเชื่อมโยงกับสารอาหารอย่างวิตามินเอ ซึ่งโดยมากแล้วจะอยู่ในไข่แดง เนื้อสัตว์ ตับ น้ำมันตับปลา และพืชบางชนิด โดยวิตามินเอนั้น มีคุณสมบัติโดยตรงกับประสิทธิภาพของการมองเห็นของประสาทสัมผัสทางสายตาบริเวณเรตินาของดวงตา ช่วยการมองเห็นในที่มีดหรือที่มีแสงน้อย
รวมถึงการซ่อมแซมรักษาเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ไม่ว่าในอวัยวะต่าง ๆ หรือผิวพรรณ
อีกทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟันอีกด้วย
คุณสมบัติที่โดดเด่นประการสำคัญ คุณสมบัติที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวการการเจ็บป่วย ความแก่ชรา ความเหี่ยวย่น และที่สำคัญคือ เป็นตัวการที่นำเราไปสู่โรคร้ายหลาย ๆ โรค หนึ่งในนั้นคือโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจ โดยเบต้าแคโรทีน จะทำการกระตุ้นการทำงานของ T-helper Cell ซึ่งช่วยด้านการเกิดเซลล์มะเร็งได้ และสำหรับคนที่รักสุขภาพและอยากหนุ่มและสาวเสมอ
เบต้าแคโรทีน ยังช่วยต้านความชราได้อย่างดี นอกจากหนุ่มและสาวเสมอแล้ว ยังสุขภาพดีอีกด้วย
Where is Beta-carotene? หาเบต้า แคโรทีน ได้จากไหน ปัจจุบัน มนุษย์เราสามารถบริโภคสารอาหารที่มีส่วนผสมของเบต้าแคโรทีน ในพืชผักที่มีสารสีเหลือง สีส้ม และสีแดง ซึ่งพืชผักเหล่านี้มีรงควัตถุที่เป็นสารประกอบที่มีเบต้าแคโรทีนจำนวนมาก อาทิ ฟักทอง มะระ ผักบุ้ง ผักคะน้า ตำลึง แตงโม แคนตาลูป หัวผักกาด มะละกอ แครอต และสามารถรับประทานได้ในรูปแบบของอาหารเสริมประเภทต่าง ๆ และในเครื่องดื่มประเภทน้ำผัก ผลไม้คั้นสดที่มีส่วนผสมของเบต้าแคโรทีน เช่น น้ำแครอต น้ำแตงโม และน้ำแคนตาลูป
Best Beta-Carotene in Thai Fruits...ผลไม้ไทยนี่แหละ สุดยอดอาหารเบต้า แคโรทีน จากการศึกษาของกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ผลไม้ไทยเราที่มีปริมาณของเบต้าแคโรทีนสูง 10 อันดับแรก ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มะเขือเทศราชินี มะละกอสุก กล้วยไข่ มะม่วงยายกล่ำ มะปรางหวาน แคนตาลูปเนื้อเหลือง มะยงชิด มะม่วงเขียวสวยสุก และสับปะรดภูเก็ต